5 หนังที่ทำราายได้น้อยที่สุดปี 2025

Snow White (Disney)

Snow White เป็นหนังที่ได้นำเอาการ์ตูนคลาสสิกมาทำเป็น Live-action โดยเน้นความเป็นผู้นำของสโนว์ไวท์และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม แทนการรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าชาย และ เหตุผลที่รายได้น้อยก็เพราะ กระแสดราม่าตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงที่ไม่ต้องตามต้นฉบับ และ มีเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนจากต้นฉบับมากเกินไป จนทำให้แฟนคลับดูแล้วไม่สนุก และเสียงส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างไปในแง่ลบ ประกอบกับทุนสร้างมหาศาล ($270 ล้าน) ทำให้รายได้แค่ $205 ล้านไม่เพียงพอต่อการคืนทุน

Tron: Ares (Disney)

เป็นหนังเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์สุดล้ำ “Ares” ถูกส่งข้ามมิติจากโลกดิจิทัลมายังโลกมนุษย์เพื่อปฏิบัติภารกิจลับที่อาจเปลี่ยนชะตากรรมของทั้งสองโลก เหตุผลที่ทำให้ Tron: Ares (Disney) ขาดทุนนั้นเป็นเพราะ: ทิ้งช่วงจากภาคก่อนนานเกินไป (15 ปี) และการไม่มีนักแสดงชุดเดิมทำให้ฐานแฟนคลับไม่เหนียวแน่น และ ลดลงบางส่วน รายได้จบที่ $142 ล้าน จากทุนสร้างสูงถึง $180 ล้าน

Elio (Pixar)

หนังจะเล่าเรื่องของเด็กชายวัย 11 ปีที่ถูกลักพาตัวไปยังสภาอวกาศต่างดาว และถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “ทูตตัวแทนจากโลก” จนต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่โดยไม่ตั้งใจ เหตุผลที่ขาดทุน: ทุนสร้าง $150 ล้าน แต่ทำรายได้ทั่วโลกเพียง $154 ล้าน (ซึ่งยังไม่คุ้มค่าการตลาด) ผลจากความล่าช้าในการสร้างและการแข่งขันที่สูงมากจากหนังแอนิเมชันเรื่องอื่นในปีเดียวกัน

Mickey 17 (Warner Bros.)

หนังเริ่มเล่าเรื่อเมื่อ พนักงานอวกาศ “ร่างโคลน” ที่ต้องทำหน้าที่เสี่ยงตาย เมื่อตายไปความจำจะถูกถ่ายโอนไปยังร่างใหม่ แต่ความผิดพลาดทำให้เกิดร่างโคลนสองคนที่มีชีวิตอยู่พร้อมกัน เหตุผลที่ขาดทุนเป็นเพราะ แม้เป็นงานของผู้กำกับ บงจุนโฮ แต่เนื้อหาไซไฟที่ซับซ้อน และ เฉพาะตัวสูงทำให้เข้าถึงยากสำหรับผู้ชมทั่วไป ทำรายได้ไปเพียง $133 ล้าน จากทุนสร้างเกือบ $120 ล้าน (ยังไม่รวมงบโฆษณา)

The Alto Knights (Warner Bros.)

เป็นศึกห้ำหั่นของเจ้าพ่อมาเฟียสองขั้วอำนาจในนิวยอร์กยุค 1950 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นใหญ่ที่สุดในวงการอาชญากรรม (โรเบิร์ต เดอ นีโร แสดงนำทั้งสองบท)และ เหตุผลที่ขาดทุนนั้นเพราะ ใช้ทุนสร้าง $45 ล้าน แต่ทำรายได้ทั่วโลกได้เพียง $10 ล้าน เท่านั้น ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่เพราะแนวหนังมาเฟียยุคเก่าไม่สามารถดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ให้เข้าโรงได้