5 หนังดังในปี 2025 ที่ทำให้คนดูผิดหวังมากที่สุด

toukta toukat December 17, 2025
  1. War of the Worlds (2025)

War of the Worlds (2025) เป็นหนังแนว แอคชัน ไซไฟ ระทึกขวัญ. กำกับโดย: ริช ลี นำแสดงโดย: ไอซ์ คิวบ์, อีวา ลองโกเรีย, คลาร์ก เกร็ก. เนื้อเรื่องย่อๆ: เรื่องราวเริ่มจากโลกที่อยู่ดีๆ ก็เผชิญการรุกรานจากสิ่งมีชีวิตต่างดาว เมื่อวัตถุประหลาดชนเข้ากับเมืองใหญ่ทั่วโลก บุคคลสำคัญคือเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขาและครอบครัว แม้เหตุการณ์จะเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ต่อมนุษยชาติ แต่หนังเลือกเล่าเรื่องผ่านมุมมองการเฝ้าดูหน้าจอคอมพิวเตอร์และข่าวสารมากกว่าฉากแอ็กชันจริงๆ จังๆ

เหตุผลที่คนดูผิดหวัง: เป็นเพราะเรื่องราว และ บทถูกวิจารณ์ว่า ไร้พลัง และ น่าเบื่อ, เรียกคะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์ต่ำสุดในปี 2025 บางสำนักถึงกับจัดให้เป็นหนึ่งในหนังแย่ที่สุดแห่งปี การใช้ product placement (โฆษณาแบรนด์) มากเกินไปจนทำให้คนดูรำคาญ และ ฉากส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แทนการแสดงสด ทำให้คนดูรู้สึก ขาดความตื่นเต้นของหนังไซไฟระดับใหญ่ ดูแล้วเหมือนให้ Ai เขียนบทให้ เอฟเฟกต์ และ การสร้างโลก ขาดมิติ ทำให้ดูแล้ว“ดูถูกไปเลยสำหรับหนังสเกลใหญ่” เลยกลายเป็นหนึ่งใน 5 หนังที่คนที่ดูบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหนังที่ห่วยที่สุดในปี 2025

 War of the Worlds (2025)

2. Five Nights at Freddy’s 2 (2025)

เป็นหนังแนว สยองขวัญ / แฟรนไชส์เกม. เรื่องย่อ: ต่อจากหนัง Five Nights at Freddy’s ภาคแรก เล่าเรื่องการกลับมาของ Freddy Fazbear’s Pizza และ ตำนานหุ่นแอนิมาทรอนิกส์สุดสยอง โดยมีตัวละครหลักกลับมาสืบสวนความลับอันน่ากลัวของสถานที่แห่งนี้ ในภาคนี้มีศัตรูใหม่ ๆ และการเปิดเผยส่วนลึกของตำนานของตู้หุ่น.

เหตุผลที่คนดูผิดหวัง: แม้มีแฟนเกมฐานใหญ่ แต่หนัง ถูกวิจารณ์ว่ามีเนื้อเรื่องซับซ้อนมากเกินไป และ เต็มไปด้วย lore ที่เข้าใจยาก แทนที่จะเน้นการสร้างความหวาดกลัวมากกว่า นักวิจารณ์หลายสำนักบอกว่า Five Nights at Freddy’s 2 “ไม่มีการสร้างบรรยากาศสยองแบบบจริงๆเลย” และ จังหวะหนังก็ไม่ค่อยดี, ทำให้ความตื่นเต้นหายไป ทำเอาคนดูหมดสนุกหมดความตื่นเต้น อีกอย่างนึงที่ทำให้คนดูผิดหวังเพราะว่า ตัวละคร และ บทถูกมองว่า ไม่พัฒนาเท่าที่ควร หรือ แทบจะไม่พัฒนาเลย, ทำให้รู้สึกว่าหนังจัดฉากมากกว่าเล่าเรื่อง ถึงอย่างไรก็ตามหนังเรื่องนี้ยังเป็นเพียงภาคต่อเเละยังทำมาเพื่อเเฟนคลับโดยเฉพาะ เรื่องอาจจะไม่เหมากับคนทั่วไป

Five Nights at Freddy’s 2 (2025)

3. The Fantastic Four: First Steps

เป็นหนังประเภท: ซูเปอร์ฮีโร่ / แฟนตาซี เนื้อเรื่องย่อ: เรื่องราวของกลุ่มฮีโร่สี่คนที่ได้รับพลังพิเศษหลังจากเหตุการณ์วิทยาศาสตร์ล้มเหลว พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลัง และ ตั้งทีมเพื่อเผชิญภัยคุกคามต่อโลกครั้งใหม่

เหตุผลที่คนดูผิดหวัง: หนังถูกโทษว่า บทซูเปอร์ฮีโร่ซ้ำซาก และ ไม่มีเอกลักษณ์ไม่มีอะไรใหม่, ทำให้รู้สึกเหมือนเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีอะไรเปลี่ยน การพัฒนาตัวละครก็ไม่โดดเด่น, ทำให้แฟนซูเปอร์ฮีโร่รุ่นเก่ารู้สึกว่ามัน “ไม่เข้าถึงใจ” เท่าภาคก่อนๆ แม้จะมีตัวละคร และ โปรดักชันระดับสูง แต่กลับ ไม่สามารถสร้างอารมณ์ และ จังหวะหนังที่ดี พอจะชดเชยบทที่อ่อนแอ ส่วนใหญ่จะเน้นโมเม้นเรื่องครอบครัวไม่ได้เน้นการต่อสู้ขนาดนั้น ดูแล้วรู้สึกเบื่อๆเพราะบทมันไม่ต่างจากภาคเก่าๆเลย ดูเหมือนถูกกำจัดงบมากเกินไปเลยทำให้เหมือน ซูเปอร์ฮีโร่mini

The Fantastic Four First Steps

4. Snow White (2025)

เป็นหนัง ประเภท: โรแมนติก / แฟนตาซี / รีเมคดิสนีย์ เนื้อเรื่องย่อ: รีเมคจากเรื่อง สโนว์ไวท์ คลาสสิกของดิสนีย์ เล่าเรื่องเจ้าหญิงที่ต้องหลบหนีจากราชินีใจร้าย แต่เธอได้พบกับคนแคระทั้งเจ็ดและต้องต่อสู้เพื่อเก็บความหวังกลับคืนมาเหตุผลที่คนดูผิดหวัง: แม้มีโปรดักชันใหญ่ แต่หลายคนมองว่าหนัง ขาดเสน่ห์และพลังเหมือนฉบับดั้งเดิม, เคมีในบทละครไม่เด่น และ ดนตรีไม่ตราตรึงใจ เหมือนมีภาพสวยแต่ก็สวยแค่ภาพ ตัวละครบางตัวถูกปรับให้ดู “ผิดจากต้นฉบับจนแฟนคลาสสิกรู้สึกแปลก ๆ” ทำให้คนดูส่วนใหญ่ไม่ได้รับประสบการณ์ที่หวังไว้ และ ยังลืมไปว่า Snow White คือหนึ่งในเจ้าหญิงในดวงใจของหลายๆคน และยังเอานักแสดงที่ไม่ค่อยจะเหมือนต้นฉบับเลย และ ยังมีอีกประเด็นหนึ่งคือนักแสดงที่รับบท Snow White ดูเหมือนจะไม่ค่อยให้เกียรติตัวละคร การวางตัวไม่ดี CGI และ การนำเสนอภาพยนตร์ไม่ได้ทำให้รู้สึก “แฟนตาซีสุดอลังการ” เท่าที่ควร

Snow White (2025)

5. The Electric State (2025)

เป็นหนัง ประเภท: ไซไฟ / ผจญภัย เนื้อเรื่องย่อ: เด็กหญิงในโลกดิสโทเปียที่เดินทางข้ามทุ่งทะเลทรายแห่งอนาคตพร้อมหุ่นยนต์คู่ใจ เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ ทำให้เธอได้เผชิญกับสภาพสังคมและภัยคุกคามใหม่ ๆ
เหตุผลที่คนดูผิดหวัง:หนัง ถูกวิจารณ์ว่าบทมีช่องว่างและขาดอารมณ์ความลึก, แม้จะมีโปรดักชันและทีมนักแสดงใหญ่แต่กลับไม่สามารถดึงอารมณ์ผู้ชมได้ เหมือนมีภาพสวยแต่ “ความรู้สึกหายไป” หลายเสียงมองว่าหนังพยายามเป็นหนังไซไฟล้ำสมัย แต่กลับ กลายเป็นหนังที่เล่าเรื่องไม่ค่อยชัดเจน และ มีจุดไคลแมกซ์ที่ไม่ค่อยตอบโจทย์ของผู้ชม เสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่จึงให้คะแนนต่ำกว่าความคาดหมายของแฟน ๆ และนักวิจารณ์ทั้งหลาย

The Electric State (2025)
    Categories