ดูหนัง A Working Man (2025) Jason Statham

ดูหนัง A Working Man (2025) กำกับโดย David Ayer และเขียนบทร่วมกับ Sylvester Stallone ดัดแปลงมาจากนิยาย Levon’s Trade โดย Chuck Dixon
เรื่องเริ่มจาก Levon Cade (Jason Statham) อดีตหน่วย Black Ops/Marine Commando ที่จากชีวิตปฏิบัติการรบมาใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นคนงานก่อสร้าง แต่แล้วชีวิตสงบก็ถูกสั่นคลอน เมื่อ “เจนนี่” (ลูกสาวนายจ้างที่ Levon เคารพเหมือนครอบครัว) ถูกลักพาตัวโดยขบวนการค้ามนุษย์ รัสเซีย ซึ่งนำไปสู่ภารกิจระทึกใจที่ต้องตามล่าและเปิดโปงเครือข่ายที่มีการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เอื้ออำนวยกับกลุ่มอาชญากรรม
แนวหนังจึงเป็นแนวแอ็กชัน + ระทึกขวัญ + โร้ดแม็ปแบบ “คนธรรมดาแบกลูกที่สำคัญ” (blue-collar hero) ที่ต้องใช้ทักษะและอดีตของตัวเองกลับเข้าสู่สนามเดือดอีกครั้งเพื่อความยุติธรรมและความปลอดภัยของคนที่เขารัก

นักแสดง งานสร้าง และองค์ประกอบสำคัญ

Jason Statham ในบท Levon Cade ทำหน้าที่ได้ดีในแบบตัวละครที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีอารมณ์ส่วนตัวให้เห็น คือภายใต้ความโหด มีความรับผิดชอบ และความโศกเศร้าบางส่วนในอดีตที่ตามหลอกหลอน

สนับสนุนโดยทีมนักแสดงรุ่นใหญ่ทั้ง Michael Peña, David Harbour, Jason Flemyng, และอีกหลายคน ที่ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราวนอกจากแค่ “ยิงกันล้างแค้น”

ดูหนัง A Working Man (2025) งานสร้างถ่ายทำในลอนดอน (หลัก) และใช้บรรยากาศเมือง + ฉากแอ็กชันที่อลังการ เครื่องมือสงคราม/อาวุธมีหลายแบบ การออกแบบภาพ เสียง และคัทซีนแอ็กชันได้รับการจัดเต็ม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าบางฉากซ้ำซากหรือยืดเยื้อเกินไป

จุดแข็ง จุดอ่อน และความรู้สึกหลังดู

จุดแข็ง:

• ถ้าคุณชอบหนังแอ็กชันที่ “ยิง มวย ดิบ” มีการไล่ล่า มีการเปิดเผยความชั่วร้ายซ่อนเร้น ดูหนัง A Working Man (2025) มอบให้เต็มที่ครับ
• การแสดงของ Statham ถือว่าอยู่ในโซนที่ผู้ชมคาดหวังได้ — ไม่ได้แปลงโฉมตัวเองเยอะ แต่ทำให้บท “คนธรรมดาที่ถูกบังคับให้เป็นฮีโร่” น่าติดตามในแง่ของความรู้สึกความรับผิดชอบและความเฉียบแหลมในการใช้กลยุทธ์กับศัตรู
• การเปิดเผยเครือข่ายค้ามนุษย์ + การคอร์รัปชันช่วยให้หนังมีน้ำหนักในทางสังคมมากกว่าภาพแอ็กชันเปลือกบางเรื่อง

จุดอ่อน:

• บทพูดและตัวละครบางตัวอาจดู “แบน” หรือไม่ลึกหนัก เพราะต้องใส่หลายตัวละคร หลายจุดพล็อตย่อย ทำให้บางจุดดูรู้สึกว่างานเล่าเรื่อง “ถูกบังคับ” ให้อธิบายหลายอย่าง
• ความยาวและจังหวะบางช่วงถูกวิจารณ์ว่าเหนื่อยหน่อย การแอ็กชันซ้ำซาก และองค์ประกอบที่คาดเดาได้ ทำให้ความตื่นเต้นลดลงในบางช่วงกลางเรื่อง
• บางเสียงชื่นชมว่านี่คือหนัง Statham ที่ดี แต่ก็มีผู้ชมที่มองว่ามันใกล้เคียงหนังแนว “หนังบี-หนังรบเชิงทวงความยุติธรรม” แบบดั้งเดิม เช่น Taken-style — ถ้าคาดหวังอะไรใหม่หรือพลิกโต๊ะ อาจผิดหวังเล็กน้อย